ผลกีวี่ที่มีเปลือกสีน้ำตาลและเนื้อสีเขียวสดใส มักเป็นที่รู้จักในฐานะผลไม้ที่สดชื่นและอุดมไปด้วยวิตามินซี แต่จริง ๆ แล้ว กีวี่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายที่หลายคนอาจไม่รู้จัก ดังนี้:
1. ช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ
- กีวี่มีสารเซโรโทนิน (serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยควบคุมวงจรการนอน การรับประทานกีวี่ก่อนนอนสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ ทำให้นอนหลับลึกและสบายขึ้น นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระในกีวี่ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพการนอนหลับด้วย
2. ส่งเสริมการย่อยอาหาร
- กีวี่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ทั้งไฟเบอร์ที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้กีวี่ยังมีเอนไซม์แอกทินิดิน (actinidin) ที่ช่วยย่อยโปรตีนและปรับปรุงกระบวนการย่อยอาหาร ทำให้ป้องกันปัญหาการย่อยอาหาร เช่น ท้องผูกและอาการท้องอืด
3. ช่วยบำรุงหัวใจ
- กีวี่มีโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีและอี รวมถึงโพลีฟีนอลในกีวี่ยังช่วยป้องกันการทำลายเซลล์และการอักเสบ ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพหัวใจ
4. ช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา
- กีวี่มีลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ช่วยปกป้องดวงตาจากการทำลายของรังสี UV และลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ การรับประทานกีวี่เป็นประจำสามารถช่วยรักษาสุขภาพดวงตาในระยะยาวได้
5. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- กีวี่มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ต่อต้านการติดเชื้อ และช่วยเร่งการหายของบาดแผล ทำให้กีวี่เป็นผลไม้ที่ดีต่อการรับประทานในช่วงฤดูไข้หวัดหรือเมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
6. ช่วยในการลดน้ำหนัก
- กีวี่มีแคลอรีต่ำแต่มีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้อิ่มนานขึ้น ช่วยลดความอยากอาหารและป้องกันการกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากเกินไป นอกจากนี้ เอนไซม์แอกทินิดินในกีวี่ยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญ ทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น
7. ลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด
- การรับประทานกีวี่สองถึงสามลูกต่อวันช่วยลดการเกิดลิ่มเลือดและลดระดับไขมันในเลือด ผลลัพธ์นี้คล้ายกับการใช้แอสไพรินแต่ไม่มีผลข้างเคียง ทำให้กีวี่เป็นตัวเลือกธรรมชาติในการรักษาสุขภาพเลือดและลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
8. ช่วยบำรุงผิวพรรณ
- วิตามินซีและอีในกีวี่มีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพผิว วิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึงและยืดหยุ่น ส่วนวิตามินอีช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ การรับประทานกีวี่เป็นประจำช่วยให้ผิวพรรณสดใสและมีสุขภาพดี
9. ลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไต
- กีวี่มีโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมความสมดุลของของเหลวในร่างกายและป้องกันการสะสมของแร่ธาตุที่อาจทำให้เกิดนิ่วในไต การรับประทานกีวี่เป็นประจำสามารถช่วยรักษาสุขภาพไตและลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไต
10. ช่วยบำรุงสุขภาพระบบทางเดินหายใจ
- การรับประทานกีวี่เป็นประจำสามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด อาการไอ และหายใจลำบาก โดยเฉพาะในเด็ก วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระในกีวี่ช่วยลดการอักเสบและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด
11. ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง
- กีวี่มีแคลเซียม แมกนีเซียม และวิตามินเค ซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อสุขภาพของกระดูก การรับประทานกีวี่เป็นประจำสามารถช่วยรักษาความหนาแน่นของกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
12. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- แม้กีวี่จะมีน้ำตาลธรรมชาติ แต่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ จึงไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ไฟเบอร์ในกีวี่ยังช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ปลอดภัยต่อการรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
เคล็ดลับในการรับประทานกีวี่:
- ทานทั้งเปลือก: เปลือกกีวี่ก็อุดมไปด้วยไฟเบอร์และสารอาหาร หากคุณล้างกีวี่ให้สะอาด คุณสามารถรับประทานได้ทั้งเปลือกเพื่อเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ในร่างกาย
- ผสมในสมูทตี้: กีวี่สามารถเป็นส่วนผสมที่ดีและสดชื่นในสมูทตี้ ผสมกับผักใบเขียวหรือผลไม้อื่น ๆ เพื่อเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยสารอาหาร
- สลัดผลไม้: เพิ่มกีวี่หั่นบาง ๆ ลงในสลัดผลไม้เพื่อรสชาติที่หวานและสดชื่น กีวี่ยังเข้ากันได้ดีกับโยเกิร์ตหรือน้ำผึ้งเป็นของว่างที่มีประโยชน์
- หลีกเลี่ยงการทานร่วมกับผลิตภัณฑ์นม: กีวี่มีเอนไซม์แอกทินิดินที่สามารถย่อยโปรตีนและทำให้ผลิตภัณฑ์นม เช่น โยเกิร์ตหรือนม มีรสขมหรือจับตัวเป็นก้อน ควรรับประทานกีวี่แยกกับผลิตภัณฑ์นม
ด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลากหลายนี้ กีวี่จึงเป็นผลไม้ที่ดีในการรวมเข้ากับอาหารประจำวันของคุณ การรับประทานกีวี่เป็นประจำสามารถช่วยเพิ่มสุขภาพโดยรวมของคุณได้อย่างดีเยี่ยม