in

คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันนี่คือความแตกต่างระหว่างพิลาทิสและโยคะ

พิลาทิสและโยคะเป็นการออกกำลังกายสองรูปแบบที่ได้รับความนิยม โดยแต่ละรูปแบบมีประโยชน์ต่อสุขภาพและการออกกำลังกายที่แตกต่างกัน แม้ว่าจะดูคล้ายกันเนื่องจากทั้งสองเน้นเรื่องความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และการเชื่อมโยงระหว่างร่างกายกับจิตใจ แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการดังนี้:

1. แหล่งกำเนิดและประวัติความเป็นมา

  • โยคะ: โยคะมีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดียและมีประวัติยาวนานกว่าพันปี เป็นการฝึกที่รวมท่าโยคะ (อาสนะ), การหายใจ (ปราณยามะ) และการทำสมาธิเพื่อสร้างความสมดุลทางกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ
  • พิลาทิส: พิลาทิสถูกพัฒนาขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยโจเซฟ พิลาทิส (Joseph Pilates) จากประเทศเยอรมนี เริ่มแรกถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูร่างกายและการฟื้นฟูสุขภาพของทหารที่บาดเจ็บในสงครามโลกครั้งที่ 1 เน้นการเสริมสร้างความแข็งแรงของแกนกลางและการควบคุมกล้ามเนื้อ

2. จุดเน้นของการฝึก

  • โยคะ: โยคะเน้นที่ความยืดหยุ่น ความสมดุล และการหายใจ การฝึกโยคะจะประกอบด้วยท่าโยคะ (อาสนะ) ที่ออกแบบมาเพื่อยืดและเสริมสร้างร่างกาย รวมถึงการทำสมาธิเพื่อสร้างความสงบในจิตใจ การหายใจเป็นส่วนสำคัญของการเคลื่อนไหวในทุกท่าโยคะ
  • พิลาทิส: พิลาทิสเน้นที่การเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลาง (core) ซึ่งรวมถึงกล้ามเนื้อหน้าท้อง หลัง และสะโพก การเคลื่อนไหวในพิลาทิสออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแข็งแรง การควบคุม และความมั่นคงของร่างกาย โดยมักใช้เครื่องมือเสริม เช่น ลูกบอลพิลาทิส เครื่องรีฟอร์มเมอร์ (Reformer) และแถบยืด

3. เทคนิคการหายใจ

  • โยคะ: การหายใจในโยคะมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทของโยคะที่ฝึก โดยทั่วไปการหายใจจะทำผ่านจมูก โดยมีจังหวะสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวหรือท่า การหายใจในโยคะมักใช้เพื่อสร้างความสงบในจิตใจและเพิ่มสมาธิ
  • พิลาทิส: การหายใจในพิลาทิสมีโครงสร้างที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยทั่วไปจะหายใจเข้าผ่านจมูกและหายใจออกทางปาก เน้นการหายใจข้างลำตัว (lateral breathing) เพื่อสนับสนุนกล้ามเนื้อแกนกลางและรักษาความมั่นคงของร่างกายระหว่างการฝึก

4. เป้าหมายและประโยชน์

  • โยคะ: โยคะมุ่งเน้นไปที่ความสมดุลระหว่างร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ การฝึกโยคะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ความสมดุลทางจิตใจ ลดความเครียด และส่งเสริมความสุขทางอารมณ์ โยคะยังเกี่ยวข้องกับการเพิ่มพลังจิตและความเข้าใจตนเอง
  • พิลาทิส: พิลาทิสเน้นการออกกำลังกายที่เน้นความฟิตของร่างกาย โดยเฉพาะการเสริมสร้างและควบคุมกล้ามเนื้อ ประโยชน์หลักของพิลาทิสคือการเพิ่มความแข็งแรงของแกนกลาง ปรับปรุงท่าทางการยืนและเดิน และเพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัว

5. การเคลื่อนไหวและท่าออกกำลังกาย

  • โยคะ: การฝึกโยคะมีท่าทางหลากหลาย ตั้งแต่ท่าที่ง่ายไปจนถึงท่าที่ยากและซับซ้อน ท่าโยคะแต่ละท่ามักจะถูกค้างไว้อย่างน้อย 2-3 ลมหายใจ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความสมดุล
  • พิลาทิส: การเคลื่อนไหวในพิลาทิสมักเป็นแบบไดนามิก มีการทำซ้ำหลายครั้งและเปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็ว เน้นที่การเคลื่อนไหวที่แม่นยำ การควบคุม และความมั่นคงของกล้ามเนื้อแกนกลาง มักใช้การเคลื่อนไหวที่มีการแยกตัวของกล้ามเนื้อเป็นส่วน ๆ

6. อุปกรณ์และอุปกรณ์เสริม

  • โยคะ: โยคะมักใช้อุปกรณ์เสริมที่เรียบง่าย เช่น เสื่อโยคะ (Yoga Mat), บล็อกโยคะ, สายโยคะ และหมอนรอง (Bolster) อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถฝึกได้ง่ายขึ้นหรือช่วยรองรับร่างกายในท่าที่ยาก
  • พิลาทิส: พิลาทิสใช้อุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เครื่องรีฟอร์มเมอร์ (Reformer), แคดิลแลค (Cadillac), ลูกบอลพิลาทิส และแถบยืด อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยเพิ่มความเข้มข้นของการฝึกและสร้างความหลากหลายในท่าทางต่าง ๆ

7. การเชื่อมโยงกับจิตใจและจิตวิญญาณ

  • โยคะ: โยคะมักถูกมองว่าเป็นการฝึกฝนทางจิตวิญญาณและการทำสมาธิ เป้าหมายหลักคือการสร้างความสงบในจิตใจ การมีสติรู้ตัว และความสมดุลทางจิตวิญญาณ
  • พิลาทิส: แม้ว่าพิลาทิสจะเกี่ยวข้องกับการโฟกัสจิตใจและร่างกาย แต่จุดมุ่งหมายของพิลาทิสเน้นที่การเสริมสร้างร่างกาย เช่น การปรับปรุงท่าทาง ความสมดุล และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ พิลาทิสไม่มีการเน้นในเรื่องการทำสมาธิเชิงลึกเหมือนกับโยคะ

8. ประเภทของการฝึก

  • โยคะ: โยคะมีหลายประเภท เช่น หฐโยคะ (Hatha Yoga), วินยาสะโยคะ (Vinyasa Yoga), อัษฎางค์โยคะ (Ashtanga Yoga), บิครัมโยคะ (Bikram Yoga), และหยินโยคะ (Yin Yoga) แต่ละประเภทมีความเข้มข้นและจุดเน้นที่แตกต่างกัน ตั้งแต่แบบผ่อนคลายไปจนถึงแบบไดนามิก
  • พิลาทิส: พิลาทิสแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ พิลาทิสแมท (Mat Pilates) ซึ่งฝึกบนเสื่อโดยไม่ใช้อุปกรณ์ และ พิลาทิสรีฟอร์มเมอร์ (Reformer Pilates) ซึ่งใช้อุปกรณ์เสริม แต่ละประเภทมีการเคลื่อนไหวและความเข้มข้นของการฝึกที่แตกต่างกัน

9. ระดับความยาก

  • โยคะ: โยคะมีระดับความยากที่หลากหลาย ตั้งแต่ท่าทางง่าย ๆ สำหรับผู้เริ่มต้นไปจนถึงท่าที่ซับซ้อนและท้าทาย ความสมดุลและความยืดหยุ่นมักเป็นความท้าทายหลักของการฝึก
  • พิลาทิส: พิลาทิสสามารถท้าทายได้แม้แต่กับผู้ที่คุ้นเคยกับการออกกำลังกาย โดยเฉพาะในด้านการเสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางและการควบคุมร่างกาย ความเข้มข้นสามารถปรับได้ตามความสามารถของแต่ละคน แต่ต้องใช้ความมุ่งมั่นสูงในเทคนิคการฝึก

สรุป

โยคะและพิลาทิสมีประโยชน์ที่ยอดเยี่ยมทั้งต่อร่างกายและจิตใจ แต่มีวิธีการและจุดเน้นที่แตกต่างกัน โยคะเน้นการสร้างความสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ ความยืดหยุ่น และการผ่อนคลาย ในขณะที่พิลาทิสเน้นการเสริมสร้างความ