ความยากของการเรียนรู้ภาษาต่าง ๆ นั้นมักเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันในหมู่นักภาษาศาสตร์และผู้เรียนภาษาทั่วโลก โดยความยากของแต่ละภาษาอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น โครงสร้างทางไวยากรณ์ ระบบการเขียน และเสียงในภาษา ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจว่าภาษาใดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาษาที่ยากที่สุดในโลก
1. ภาษาจีนกลาง (Mandarin)
ภาษาจีนกลางมักได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในภาษาที่ยากที่สุดในโลก สาเหตุหลัก ๆ ก็คือระบบการเขียนที่ใช้ตัวอักษรจีน ซึ่งเป็นระบบที่ไม่ได้ใช้อักษรเช่นเดียวกับภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ ที่ใช้ตัวอักษรโรมัน ตัวอักษรจีนเป็นตัวอักษรภาพที่มีการออกเสียงและความหมายต่างกันไปตามบริบท ดังนั้น การจดจำตัวอักษรจีนจำนวนมากจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก
นอกจากนี้ ภาษาจีนกลางยังเป็นภาษาที่มีโทนเสียง การออกเสียงที่ผิดเพียงนิดเดียวสามารถเปลี่ยนความหมายของคำได้ทันที ทำให้ผู้เรียนต้องใช้เวลามากในการฝึกฝนการออกเสียงให้ถูกต้องเพื่อให้สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ภาษาญี่ปุ่น
แม้ว่าภาษาญี่ปุ่นจะมีระบบเสียงที่ไม่ซับซ้อนมากนักเมื่อเทียบกับภาษาจีน แต่ระบบการเขียนของภาษาญี่ปุ่นนั้นถือว่าเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก ภาษาญี่ปุ่นมีการใช้ตัวอักษรสามประเภท ได้แก่ ฮิรางานะ คาตาคานะ และคันจิ ซึ่งแต่ละประเภทมีการใช้งานที่แตกต่างกัน
การเรียนรู้คันจิ (ตัวอักษรจีนที่ถูกนำมาใช้ในภาษาญี่ปุ่น) ก็เป็นส่วนที่ยากที่สุดเช่นกัน เนื่องจากมีตัวอักษรคันจิหลายพันตัวที่ผู้เรียนต้องจดจำ อีกทั้งภาษาญี่ปุ่นยังมีระดับภาษาที่หลากหลาย ซึ่งผู้พูดต้องปรับใช้ตามสถานการณ์หรือบุคคลที่สนทนาด้วย ทำให้ภาษาญี่ปุ่นมีความซับซ้อนในด้านวัฒนธรรมและการใช้คำที่หลากหลาย
3. ภาษาอาหรับ
ภาษาอาหรับเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ แม้ว่าภาษาอาหรับจะมีการใช้ตัวอักษรเพียง 28 ตัว แต่ความยากของภาษานี้อยู่ที่รูปแบบของการเขียน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของตัวอักษรเมื่ออยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ของคำ เช่น ตัวอักษรที่อยู่ต้นคำ กลางคำ หรือท้ายคำจะมีการเขียนที่ต่างกัน
นอกจากนี้ ภาษาอาหรับยังเป็นภาษาที่มีไวยากรณ์ซับซ้อน เช่น การเปลี่ยนรูปกริยาให้ตรงกับบุคคลและเพศ อีกทั้งการออกเสียงของบางพยัญชนะในภาษาอาหรับยังเป็นเรื่องยากสำหรับผู้เรียนที่ไม่ได้ใช้เสียงนี้ในภาษาแม่
4. ภาษารัสเซีย
ภาษารัสเซียเป็นภาษาในกลุ่มภาษาสลาฟที่มีไวยากรณ์ซับซ้อนมาก โดยเฉพาะในเรื่องการเปลี่ยนรูปของคำตามหน้าที่ในประโยค (Declension) ซึ่งภาษาไทยและภาษาอังกฤษไม่มีระบบการเปลี่ยนรูปเช่นนี้ นอกจากนี้ ภาษารัสเซียยังมีตัวอักษรซีริลลิก (Cyrillic) ซึ่งแตกต่างจากตัวอักษรโรมันที่ใช้ในภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ ทำให้ผู้เรียนต้องเรียนรู้ตัวอักษรใหม่ทั้งหมด
5. ภาษาเกาหลี
ภาษาเกาหลีมีระบบการเขียนที่เรียกว่าฮันกึล ซึ่งถือว่ามีความง่ายต่อการเรียนรู้ แต่ความยากของภาษาเกาหลีอยู่ที่ไวยากรณ์และการเรียงลำดับคำในประโยคที่ไม่เหมือนกับภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย นอกจากนี้ ภาษาเกาหลียังมีระบบการพูดที่แตกต่างกันตามระดับความสุภาพ ซึ่งผู้เรียนต้องระมัดระวังในการใช้เพื่อไม่ให้เกิดความไม่เหมาะสมในการสื่อสาร
ภาษาที่ได้รับการยกย่องว่ายากที่สุดในโลกนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์และภาษาแม่ของผู้เรียน หากผู้เรียนมีภาษาแม่ที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงกับภาษาที่กำลังเรียนรู้ อาจจะรู้สึกว่าภาษานั้นง่ายขึ้น แต่หากผู้เรียนต้องเผชิญกับโครงสร้างที่แตกต่างอย่างมาก เช่น ระบบการเขียนหรือไวยากรณ์ที่ซับซ้อน ภาษานั้นก็จะกลายเป็นภาษาที่ยากมาก อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศไม่เพียงเป็นการเปิดโอกาสในการสื่อสาร แต่ยังเป็นการเปิดมุมมองและเข้าใจวัฒนธรรมใหม่ ๆ