ถั่วลิสงกับประโยชน์สุขภาพ
กว่าครึ่งของสารอาหารในถั่วลิสงคือไขมันชนิดดี ซึ่งมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม รองลงมาคือโปรตีนที่มีมากถึงร้อยละ 22-30 ของแคลอรี่ทั้งหมด ทั้งยังมีน้ำตาลน้อย ทำให้เชื่อกันว่าการรับประทานถั่วลิสงอาจส่งผลดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานและช่วยในการลดน้ำหนัก รวมถึงคุณประโยชน์ต่อสุขภาพในอีกหลาย ๆ ด้าน โดยปัจจุบันมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณทางการรักษาหรือป้องกันโรคของถั่วลิสง ดังนี้
ดีต่อสุขภาพหัวใจ คุณประโยชน์ของการรับประทานถั่วกับการป้องกันโรคที่คร่าชีวิตผู้คนอย่างโรคหัวใจนั้นมีการกล่าวถึงอย่างแพร่หลาย งานวิจัยชิ้นหนึ่งเฝ้าสังเกตหญิงและชายจำนวน 118,962 เป็นเวลา 20 กว่าปี ซึ่งผู้คนเหล่านี้ไม่มีประวัติป่วยเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดในสมองมาก่อน ผลพบว่าความถี่ในการบริโภคถั่วสัมพันธ์กับอัตราการตายจากโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคหัวใจ คือยิ่งบริโภคถั่วบ่อยครั้งเท่าไร ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจและภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น
เช่นเดียวกับงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคถั่วลิสงและถั่วชนิดต่าง ๆ กับอัตราการเสียชีวิตคนกลุ่มใหญ่ในประเทศอเมริกาทางตอนใต้และประเทศจีน โดยใช้แบบสอบถามติดตามเป็นเวลา 5-12 ปี ผลพบว่าชาวอเมริกันประมาณ 72,000 คน อายุระหว่าง 40-79 ปี ที่บริโภคถั่วลิสงเป็นประจำมีอัตราการตายในช่วง 5 ปี ลดลง 21 เปอร์เซ็นต์ ส่วนชาวจีนประมาณ 135,000 คน อายุ 40-74 ปี มีอัตราการตายลดลง 17 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่มต่างถูกควบคุมจากปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการเสียชีวิต เช่น พฤติกรรมการสูบบุหรี่ ภาวะอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น
นอกจากนี้ ความแตกต่างของชาติพันธุ์และระดับคุณภาพชีวิตของอาสาสมัครในทั้ง 2 งานวิจัยยังเป็นข้อมูลที่นับว่าน่าสนใจ เนื่องจากงานวิจัยแรกศึกษากับบุคลากรทางการแพทย์ในวิทยาลัยสาธารณสุขซึ่งมีการศึกษาและมีรายได้สูงกว่ากลุ่มอาสาสมัครชาวอเมริกันทางตอนใต้ที่ส่วนใหญ่มีรายได้น้อย ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกันจึงอาจบ่งบอกได้ว่าชาติพันธฺ์และคุณภาพชีวิตที่แตกต่างกันไม่ได้เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ แต่เป็นผลมาจากการบริโภคถั่วชนิดต่าง ๆ รวมถึงถั่วลิสงที่มีราคาถูกและผู้มีรายได้น้อยสามารถจับจ่ายได้
ดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน ถั่วลิสงมีดัชนีน้ำตาลต่ำ ซึ่งจะช่วยให้การเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดเป็นไปอย่างช้า ๆ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดหลังการบริโภคไม่เพิ่มสูง อีกทั้งคาดว่ามีไขมันดีและสารอาหารอื่น ๆ ที่อาจช่วยรักษาระดับน้ำตาลและอินซูลินให้สมดุล ถั่วลิสงจึงน่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ดีต่อผู้ป่วยเบาหวานและป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้
การศึกษาชิ้นหนึ่งกล่าวถึงประโยชน์ด้านนี้ของถั่วลิสง หลังจากเฝ้าติดตามพฤติกรรมการกินของหญิงในวิทยาลัยสาธารณสุขอายุ 34-59 ปี จำนวน 83,818 เป็นเวลา 16 ปี อาสาสมัครเหล่านี้ไม่มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคมะเร็งมาก่อน ผลลัพธ์พบว่าหญิงที่บริโภคถั่วลิสงและเนยถั่วสัปดาห์ละ 140 กรัม มีแนวโน้มการเกิดโรคเบาหวานน้อยกว่าหญิงที่ไม่เคยบริโภคถั่วเลยหรือบริโภคน้อยมาก และแนะนำว่าการบริโภคถั่วแทนธัญพืชขัดสี เนื้อแดง หรือเนื้อแปรรูปจะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับ
งานวิจัยในปีต่อมาศึกษากับผู้ป่วยโรคเบาหวานในลักษณะคล้ายกัน คือใช้แบบสอบถามเพื่อดูความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคถั่วกับอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในหญิงที่ป่วยเป็นเบาหวานจำนวน 6,309 คน พบว่าการรับประทานถั่วชนิดต่าง ๆ อย่างน้อย 140 กรัมต่อสัปดาห์ หรือเนยถั่ว 1 ช้อนชา ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ ถั่วชนิดต่าง ๆ รวมถึงถั่วลิสงจึงอาจมีสรรพคุณป้องกันการเกิดโรคนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงอย่างผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่ยังไม่อาจสรุปได้ชัดเจน จำเป็นต้องมีการศึกษาเชิงลึกเพื่อยืนยันผลลัพธ์ดังกล่าวต่อไป
ช่วยควบคุมน้ำหนัก หลายคนสงสัยว่าการรับประทานถั่วลิสงนั้นทำให้อ้วนหรือไม่ เพราะในถั่วลิสงมีไขมันและแคลอรี่สูง ซึ่งทางวิทยาศาสตร์ได้หาคำตอบในข้อนี้อย่างต่อเนื่อง งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าการเพิ่มการรับประทานถั่วลิสงในมื้ออาหารอย่างพอดีจะช่วยเพิ่มคุณค่าสารอาหารและความอยากอาหาร โดยไม่ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น